Wednesday, August 14, 2019

Introduction-Water

รักน้ำ

       ในชั้นมัธยมตอนต้นนั้น เราเรียนมาว่า น้ำประกอบด้วยออกซิเจนและไฮโดรเจน ว่า H2O คือสัญลักษณ์เคมีของน้ำ, ว่าน้ำมีจุดเดือดที่ 100⁰C จุดเยือกแข็งที่ 0⁰C , ว่าอุณหภูมิในร่างกายคนปกติอยู่ที่ 37⁰C. เรารู้มาเท่านั้น แล้วก็หยุดอยู่แค่นั้น ไม่สนใจอีกเลย.  
          ในขณะนี้ปีนี้(2019) ภาวะโลกร้อนกระทบบรรยากาศไปทุกหย่อมหญ้า ที่ส่งผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ต่อชีวิตความเป็นอยู่ และที่สำคัญที่สุด ต่อความมั่นคงทางอาหารของชาวโลก. มีผู้ทำนายอนาคตของโลกไว้เมื่อยี่สิบสามสิบปีก่อนแล้วว่า สงครามครั้งเลวร้ายที่สุดของมนุษยชาติ คือสงครามแย่งชิงน้ำ.
           สูงวัยในวันนี้ หลังจากผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านอุณหภูมิต่างๆมา ได้สัมผัสน้ำในสถานะและบริบทแวดล้อมต่างๆ  ดีใจเพียงใดว่า ชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยขาดน้ำ มีน้ำที่นำความสุขสดชื่นมาให้เสมอ เมื่อชาวโลกส่วนอื่นๆ ไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้, เมื่อเห็นแผ่นดินอื่นแตกระแหง พืชพรรณสลบแห้งเหี่ยว...  
           ข้าพเจ้ามองแม่น้ำสายต่างๆบนแผ่นดินแม่ด้วยความรู้คุณ ตื้นตันและหลงใหล.  ปลาบปลื้มทุกครั้งที่ได้ไปยืนเบื้องหน้ามวลน้ำไหล ทะเลมหาสมุทร แม่น้ำ น้ำตกหรือธารน้ำสายน้อยเรื่อยๆเอื่อยๆในท้องนา.  วิทยาศาตร์ปัจจุบัน ยืนยันแล้วว่า โลกมิได้เป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวที่มีน้ำ แต่มีน้ำอีกปริมาณมหาศาลในจักรภพ.  ปลาบปลื้มที่รู้ว่า น้ำจักเป็นสิ่งเชื่อมคน เชื่อมโลก กับจักรภพ.
          วันนี้วัยนี้ นึกอยากรู้จักน้ำมากไปกว่าสองสามประโยคที่เรียนมาในวัยเด็ก. ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ข้าพเจ้าคิดว่า ถึงเวลาที่จะ ดำ ลงในความลึกของวิทยาศาสตร์น้ำ. ได้ค้นหาข้อมูลความรู้จากสถาบัน จากแหล่งต่างๆ, ฟังปาฐกถา สัมมนา ดูสารคดีที่เกี่ยวข้อง.  ตั้งใจเรียนให้รู้จักน้ำมากขึ้น เหมือนทำความรู้จักคนรักผู้ที่เราจะอยู่ด้วยตลอดชีวิต อย่างละเอียดลออ.  การเรียนครั้งนี้ยากยิ่งนัก แต่โชคดีที่มีผู้รู้ นักวิทยาศาสตร์หลายชาติที่ได้เขียนหนังสือ ได้บรรยายเรื่องน้ำอยู่จำนวนมาก รวมทั้งเอกสารวีดีทัศน์ของการสัมมนาระหว่างสถาบัน ระดับชาติและนานาชาติ. ข้าพเจ้าติดตามไม่ลดละ ชีวิตเหมือนแช่อยู่ในน้ำมาเป็นเวลานานหลายเดือน.  การอ่านจากหลายกระแส จากเอกสารภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส ช่วยตรวจสอบความเข้าใจของข้าพเจ้าไปด้วย. รู้สำนึกบุญคุณต่อนักวิจัยผู้ประสาทวิชาแก่ข้าพเจ้า.
          ข้าพเจ้าได้เขียนบทความเรื่อง รู้จักน้ำ เข้าใจชีวิต รักชีวิต ถนอมน้ำ ที่ลงพิมพ์ในวารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ฉบับปี 2544/2001 เมื่อสิบเก้าปีก่อน และก็ได้เขียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับน้ำในแง่มุมเบาสมองอื่นๆในปีต่อๆมา. วันนี้มาคิดอีกครั้งถึงชื่อหัวข้อของบทความแรก  ยิ่งประจักษ์ชัดว่านั่นคือสัจธรรม  รู้จักน้ำ เข้าใจชีวิต  เพราะทุกชีวิตสั่นกระเพื่อมอบอุ่นในอ้อมกอดของมวลโมเลกุลน้ำ...
           มีผู้พูดเสมอมาว่า พุทธศาสนาสอดคล้องกับข้อเท็จจริงด้านวิทยาศาสตร์. ในความจำกัดส่วนตัวของข้าพเจ้า  ไม่เคยได้ฟังได้รู้จากใครว่า เหมือนตรงไหน อย่างไร.  เราเชื่อพระพุทธเจ้าด้วยศรัทธาก่อนสิ่งอื่นใด  นี่เป็นจุดยืนของชาวเอเชียส่วนใหญ่ เพราะศรัทธาเกิด เราจึงเชื่อทุกอย่าง เชื่อพระเชื่อครูผู้สอนประหนึ่งพ่อแม่หรือยิ่งกว่า. ในขณะที่ชาวเอเชียส่วนใหญ่เป็น สัตว์ศรัทธา ชาวตะวันตกด้วยระบบการศึกษาที่สืบทอดมาจากโบราณจากหลายอารยธรรม เป็น สัตว์เหตุผล มากกว่า. ความพยายามในการเจาะหาความจริงของโลก ของจักรภพ เป็นพัฒนาการที่นำความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดแล้วณนาทีปัจจุบัน (คนสร้างมนุษย์โคลนได้แล้ว สร้างหัวใจเทียมทั้งดวงได้แล้วเป็นต้น).  นี่เป็นปาฏิหาริย์จากน้ำมือและสมองคนแท้ๆ. ช่างยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์ความพยายามของคน เพื่อก้าวพ้นความจำกัดของตนเอง.  
          วันนี้วัยนี้ ข้าพเจ้าได้เพียรทำความเข้าใจและสรุปข้อใหญ่ใจความเกี่ยวกับน้ำ ในมุมมองของชีวเคมี ฟิสิกส์ ควอนตัมฟิสิกส์และจิตวิทยา.  ความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้อง(ณเวลาปัจจุบัน) กระชับจิตสำนึกว่า ชั่วชีวิตนี้และชีวิตต่อไป สิ่งที่น้ำนำมาให้จะยังอยู่ ถ้าคนรู้จักใช้ดวงตาของจิต สัมผัสโลกที่ตามองไม่เห็น. ควอนตัมฟิสิกส์บอกชัดเจนแล้วว่า  ทุกสิ่งที่เห็นเป็นภาพมายา สิ่งที่เห็นกลายเป็นอดีตทันทีที่เห็น.  เรารู้แล้วว่า เมื่อเงยหน้ามองดูแสงดาวในท้องฟ้า สิ่งที่เห็นเป็นอดีตอันไกลโพ้นของดาวดวงนั้น ที่อาจดับสลายไปหลายล้านปีแล้วเมื่อเรายืนมองแสงดาวนั้นบนโลก. ในที่สุด ชีวิตคนยืนอยู่บนอดีต, ปัจจุบันขณะนั้นแสนสั้น. ความมหัศจรรย์ของความทรงจำต่างหาก ที่เชื่อมทุกเสี้ยววินาทีของอดีตที่สิ้นสุดลง เป็นปัจจุบันของแต่ละคน. แล้วความทรงจำอยู่ที่ไหนในร่างกาย  เพราะอยากรู้ จึงต้องไปเริ่มที่ออกซิเจน ก๊าซที่ต่อชีวิตเรา.  
          มาบัดนี้เข้าใจและแน่ใจแล้วว่า อดีตไม่มีวันหายไปหรือเปลี่ยนได้  แม้คนที่มีความจำเสื่อมไปแล้ว  คนที่อยู่ในโคม่าหรือภาวะนิทรา หรือคนที่ตายไปแล้ว  เขาจะรู้ตัวหรือไม่  อดีตเขายังอยู่และจะสืบทอดต่อไปเช่นกัน.  แท้จริงเวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ส่วนเวลาตามนาฬิกาของชาวโลก เป็นสิ่งสมมุติที่ทุกคนยึดเป็นข้ออ้างอิงเพื่อความสะดวกเท่านั้น.
          เนื้อหาที่ข้าพเจ้ารวบรวมอย่างย่อๆ ผ่านการคัดกรองสำหรับเป็นความรู้พื้นฐานที่มีข้อมูลวิทยาศาสตร์ยืนยัน เพื่อเป็นหนังสือส่วนตัว เพราะ รักน้ำ  เรียนไปเขียนไป เห็นความมหัศจรรย์ของน้ำที่ไม่เคยรู้ไม่เคยคิดมาก่อน ได้จัดลำดับหัวข้อดังต่อไปนี้
๑.  น้ำในร่างกาย ปริมาณและบทบาท
๒.  ออกซิเจน เกราะกันโรค
๓.  ไฮโดรเจน มิตรผู้ชอบสังคม
๔.  โมเลกุลน้ำกับพันธะไฮโดรเจน ผู้สร้างที่แท้จริง
๕.  น้ำสถานะที่สี่ ตัวคัดกรองและตัวนำส่ง
      (เพิ่มจากสามสถานะคือ สารเหลว น้ำแข็งและไอ)
      องค์ประกอบที่สามของน้ำ สนามปฏิบัติการของกระบวนการเคมีในร่างกาย
      (เพิ่มจากออกซิเจนและไฮโดรเจน)
๖.  สสารคือมายา ทุกอย่างเป็นคลื่น
๗.  เซลล์หน่วยความจำมหาศาลในร่างกาย จากความจำ การระลึกชาติ สู่ศรัทธา

ยินดีหากมีผู้สนใจอื่นๆอ่าน และต่อยอดออกไป ตามกำลังของแต่ละคน.
ข้าพเจ้าทุ่มเทกำลังกายและสติปัญญาเพื่อศึกษาเรื่องน้ำ  หวังจะให้เป็นบทแซ่ซ้องสดุดี
พระปัญญาคุณ พระวิสุทธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ ของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น...
ที่กระตุ้นให้ข้าพเจ้าสั่งสมคุณธรรม ประสบการณ์ดีๆ สวยๆงามๆ 
เพื่อนำติดตัวไปในชีวิตหน้า...

โชติรส โกวิทวัฒนพงศ์
๑๔  สิงหาคม ๒๕๖๒.

ปัจฉิมลิขิต : ข้อมูลวิทยาศาสตร์ สูตรเคมี ตัวเลขการคำนวณต่างๆของนักวิชาการ
อยู่ในต้นฉบับของนักวิจัย ซึ่งผู้สนใจติดตามไปค้นดูได้จากลิงค์ต่างๆที่ให้เป็นตัวอย่างหรือจากหนังสือของนักวิชาการเหล่านั้น เป็นข้อมูลที่หาได้ง่าย เพียงแค่พิมพ์ชื่อเท่านั้น กูเกิลก็นำขึ้นมาให้. ทั้งหมดเป็นภาษาต่างประเทศ.
ความรู้หนึ่งถูกต้องณสมัยหนึ่ง อาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต
เพราะความก้าวหน้าในเทคโนโลยีการวิเคราะห์วิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ มิได้หยุดอยู่กับที่
ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรจะหยุดคนได้แล้ว.

No comments:

Post a Comment