Wednesday, February 24, 2021

Honour the women

พรมเล่าเรื่อง...เทิดเกียรติสตรี 
ภาพนี้ เป็นพรมไหมทอ  เนรมิตขึ้นในราวปี 1912 ชื่อพรมว่า Ehret die Frauen (honour the women ยกย่องสตรี)  ผลงานของ Marianne Stokes (1855-1927) ทอขึ้นที่ Merton Abbey, อยู่ในคอเล็กชั่น Whitworth Art Gallery (ref. http://gallerysearch.ds.man.ac.uk/Detail/25809)

ข้อความที่ทอไว้เป็นแถบบนของพรม ดังนี้ « ehret die frauen sie flechten und weben himmlische rosen in's irdische leben. » ในความหมายว่า จงเทิดเกียรติสตรี พวกเธอเป็นดอกกุหลาบสวรรค์ ผู้ถักทอความรักแก่ชีวิตชาวโลก...

ข้อความนี้ เป็นส่วนหนึ่งของบทแรกในกวีนิพนธ์เรื่อง Würde der Frauen (คุณค่าของสตรี หรือศักดิ์ศรีของสตรี, 1796) ของ Friedrich Schiller (Ref. ผู้สนใจติดตามไปอ่านบนกวีของ Schiller และบทวิเคราะห์ได้ที่นี่. 

ส่วนขอบอีกสามด้าน เป็นลายใบโอลีฟ. มีแถบคลี่ยาวบนขอบล่าง พร้อมคำทอไว้สามคำ (จากซ้ายไปขวา)  pflege, liebe, wissen แต่ละคำตรงกับตำแหน่งยืนของสตรีสามคน เพื่อเจาะจงความหมายและอธิบายท่าทีของสตรีทั้งสาม, ดังจะกล่าวต่อไป.  

อัศวินสองคนประกบสตรีสามคนที่อยู่ตรงกลางของภาพ. มีเด็กอยู่ชิดสตรีทั้งสาม.

อัศวินคนริมซ้าย มือซ้ายถือธงที่มีแถบผ้าเขียนคำว่า Schutz (กล้าหาญพร้อมปกป้อง). มือขวาจับดาบ ยืนยันพันธกิจที่เจาะจงไว้. บนพื้น หลังเท้าอัศวิน กระต่ายป่าวิ่งผ่านไป.

สตรีคนแรก แต่งตัวเรียบร้อย เหมือนแม่ชี, กำลังให้เด็กดื่มน้ำนมจากชาม. เด็กมีเพียงหนังสัตว์ห่มตรงกลางตัว (ไม่ใช่เด็กในเมือง), ยืนดื่มนมจากชาม. ด้านหลังของสตรีคนนี้ ตรงไหล่ซ้ายของเธอ มีภาพของนกกระทุง (pelican) กำลังจิกหน้าอกตัวเอง ให้เลือดไหลลงเป็นอาหารให้ลูกนกสามตัวที่อ้าปากรับ (นกกระทุงแบบนี้ง เป็นภาพคุ้นเคยในคริสต์ศิลป์ ที่โยงนัยไปถึงพระเยซูผู้ยอมตายเพื่อไถ่บาปให้มนุษย์). ใต้ลงไปที่ขอบพรม ตรงกับคำว่า pflege การดูแลเอาใจใส่.

สตรีคนที่สอง (อยู่กลางภาพพอดี) สวมเสื้อชุดสีแดง ที่เป็นสีของชนชั้นผู้ดี. เสื้อคลุมตัวนอกเป็นสีอ่อนๆ มีลวดลายของดอกลิลี (lily สัญลักษณ์บอกสถานะกษัตริย์, เชื้อพระวงศ์ชั้นสูง) เธออุ้มทารกคนหนึ่งด้วยมือซ้าย มือขวาถือดอกกุหลาบ. ภาพแบบนี้ สื่อความรัก โยงไปถึงพระแม่มารีกับพระเยซูองค์น้อย. ใต้ลงไปที่ขอบพรม ตรงกับคำว่า liebe ความรัก.

สตรีคนที่สาม สวมชุดสีอ่อน ห่มด้วยเสื้อคลุมตัวยาวสีน้ำเงินเข้ม. มือซ้ายจับด้ามของแผ่นกระดานชนวน เขียนอักษรไว้ เพื่อสอนให้เด็กอ่าน. มือขวาถือตะเกียงที่จุดสว่าง. นัยของปัญญา ความรู้ที่ส่องแสงทาง. เด็กคนหนึ่งเงยหน้า นิ้วชี้ไปที่กระดานชนวน แสดงความตั้งใจเรียน. ด้านหลังใกล้ไหล่ขวาของสตรีคนนี้ นกเค้าแมวหนึ่งตัวเกาะบนกิ่งไม้. ทุกคนรู้ว่า ในบริบทนี้ โยงไปถึงนกเค้าแมวของอาเธนา Athena เทวีกรีกผู้รอบรู้ชาญฉลาด(ที่สุด)ในหมู่ทวยเทพกรีก. ใต้ลงไปที่ขอบพรม ตรงกับคำว่า wissen ปัญญา.

อัศวินคนริมขวา ถือธงที่มีผ้าเขียนคำว่า treue ในความหมายว่า ความจงรักภักดี. มือซ้ายเท้าบนสะโพก ใกล้ดาบคู่กาย.    

อัศวินสองคนจึงทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองสตรี ด้วยความซื่อสัตย์และภักดี.

พรมนี้ทอขึ้นที่ Merton Abbey ในราวปี 1881. ปกติมีอักษรย่อของอารามนี้ ทอลงในพรมด้วย (ในภาพนี้ มองไม่เห็น). โมโนแกรม monogramme ของอารามนี้ คืออักษร ดี D ขนาดเล็ก เหนืออักษรดับเบิลยู W ทั้งสองตัวอยู่ภายในกรอบของอักษร ดี D ตัวใหญ่ ดังตัวอย่างนี้

บทกวี Würde der Frauen (คุณค่าของสตรี หรือศักดิ์ศรีของสตรี, 1796) เป็นส่วนหนึ่งในเรียงความเรื่อง  On Grace and Dignity  ของ Friedrich Schiller.  เฉพาะบทนี้ บทประกอบด้วยเก้าบท  เริ่มด้วยการพรรณนาสตรีห้าบท ตามด้วยการพรรณนาบุรุษอีกสี่บท. เนื้อความนำให้เห็นความตรงข้ามในหลักการของการเป็นสุภาพบุรุษกับสุภาพสตรี. เขาเชื่อว่า ความงามประภัสสร มีมากในสุภาพสตรี ยิ่งหากมีรูปร่างตรึงตาน่าประทับใจและนิสัยดีตรึงใจ ร่วมกันกระชับความชื่นชมให้สมดุล, ย่อมทำให้พวกเธอสวยเจิดจ้ายิ่งขึ้นอีกทวีคูณ. หากมีอุปนิสัยที่ดีเพียงอย่างเดียว ยังมิอาจประกันความมีศีลธรรมเลิศบริสุทธิ์ในใจเธอได้เต็มร้อย, ชิลเลอเห็นว่า เป็นสมบัติของสุภาพบุรุษมากกว่า... อย่างไรก็ดี ชิลเลอเชื่อว่า แต่ละคน ไม่ว่าเพศใด สั่งสม ความงามสง่าและศักดิ์ศรี ได้อย่างเพียงพอด้วยตัวเองให้ตัวเอง.  คุณสมบัติของสตรี เชื่อมนำไปสู่สันติภาพ ส่วนความหยิ่งภาคภูมิใจของบุรุษ มักลงเอยด้วยความแตกแยกในสงคราม.  เมื่อเชื่อมความงามกับศักดิ์ศรีของสุภาพสตรีเข้าด้วยกัน พวกเธอจึงมีคุณค่าสูงลอยฟ้า ที่สามัญชนมองข้ามไป.

(บทกวีของชิลเลอ ยังมีนัยอื่นๆต่อไปอีกมากเช่นกระแสนิยมสิทธิสตรี. ติดตามต่อไปอ่านข้อมูลการวิเคราะห์ผลงานของชิลเลอได้ เช่นจากเว็บนี้ >> https://archive.schillerinstitute.com/fid_91-96/933_dig_women.html)

      พรมในสมัยก่อนเหมือนภาพเล่าเรื่อง จารึกเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ หรืออธิบายจริยธรรมศาสนา. ในสมัยก่อนสตรีต้องเรียนรู้การทอผ้าทุกคน ดังที่ศิลปินเสนอให้เห็นในศิลปะยุคกลาง ว่าตั้งแต่อีฟแล้ว พอออกจากสวรรค์ ก็ต้องทอผ้า (เรียนรู้ทุกขั้นตอนในศิลปะการทอผ้า). สตรีไม่ว่าชนชั้นไหนก็ต้องเรียนต้องทำให้เป็น ถือเป็นสมบัติที่ผู้หญิงต้องมี. พรมทอมักเป็นผืนใหญ่ๆ เพื่อประดับบนผนังกำแพง ช่วยลดอุณหภูมิภายในห้องได้ เพราะทอจากขนสัตว์ ต่อมาใช้ไหม นอกจากแขวนปิดบนผนังกำแพงห้อง ยังใช้ปูพื้น ปูโต๊ะ ม้านั่งตัวใหญ่และยาว. ปัจจุบันคนรู้จักใช้วัสดุอีกหลายอย่าง ป่าน ปอ ใยพันธุ์กก ผักตบชวา กระจูดฯลฯ  นำมาทอเป็นผืน ที่มีประโยชน์ใช้สอยมากในครัวเรือน เช่น ปูพื้น ทำกระเป๋า บรรจุภัณฑ์เก๋ๆ หรือเป็นองค์ประกอบตกแต่งเครื่องเรือน. บ้านเรามีทรัพยากรมากมาย ล้วนมีค่า, วัสดุจากธรรมชาติที่ย่อยสลายในธรรมชาติได้ง่ายกว่า แทนการผลิตสิ่งของที่เป็นขยะนิรันดร์! ดั่งปลาสติกที่นับวัน ต้องนำไปปล่อยในอวกาศชั้นนอก. (ถือโอกาสระบุว่า ณปัจจุบัน อวกาศคือที่ทิ้งขยะเทคโนโลยี, เฉพาะบนดวงจันทร์ มีอุปกรณ์เครื่องกลไก เครื่องจักรทั้งหลายทั้งปวงที่มนุษย์ได้ทิ้งไว้บนดวงจันทร์ระหว่างปี 1959 ถึงปี 2019 รวมกันถึง 189,494 ตัน, เทียบเท่ากับรถยนต์จำนวนสองร้อยคัน.)  

      การถักทอ น่าจะเป็นการฝึกนิสัยแบบหนึ่ง ช่วยให้คนทอมีสมาธิ สอนให้รู้จักควบคุมกำลังมือกำลังเท้าให้คงที่สม่ำเสมอ, ซึ่งเท่ากับขัดเกลาอารมณ์ความรู้สึกรุนแรงให้ลดลงด้วย. ไม่ง่ายเลย. ช่างทอที่มีทักษะ, จิตและสมาธิเสมอต้นเสมอปลาย ย่อมทอได้สวยเสมอกัน.

โชติรส รายงาน

๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔.    

No comments:

Post a Comment