Thursday, February 13, 2020

The wide open cloak

ห่มรัก ห่อความรับผิดชอบ 

เพื่อนสัญชัยแชร์ภาพนี้จากไซต์ของ James Ayers  ผู้กำกับภาพนี้ไว้ดังนี้ 

Two Lakota lovers take a private moment for themselves in Two Souls, One Spirit. As the warrior wraps his beloved in a warm buffalo robe, he reveals his deep devotion and unending fidelity with this seemingly small gesture. I chose to depict their affection to one another with the robe because such garments represented warmth, security, and comfort to the Lakota people (who relied heavily on the buffalo for sustenance). This gentle act adds another layer of meaning to the intimate exchange.

อ่านจบปั๊บ ตอบปุ๊บว่า >> 

It's not a small gesture as said, but the most appropriate and most natural one when a man takes into his arms the life of another who completely relies on him, with no less emotion when one feels <life> he just saved from some catastrophe.

แล้วก็แทรกภาพนี้ให้ดูทันที ภาพที่ไม่ต้องมีคำบรรยาย
ตีห้าเช้านี้ (22 Nov.2015) รู้สึกตัวตื่น มือดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัว ในบัดดลนั้น ภาพอินเดียนแดงแว็บเข้ามาในสมอง แล้วกระโดดโลดไปถึงเหตุการณ์หนึ่งในคัมภีร์เก่า (ความเร็วของประจุไฟฟ้าในสมองที่แล่นไปเปิดเป็นอีกหนึ่งเครือข่ายนั้น อัศจรรย์สุดจะหยั่งได้)  เห็นตัวเองนั่งบนรถไฟสายหนึ่งในประเทศสเปน มุ่งหน้าสู่เมือง Ripoll
กำลังก้มหน้าอ่านหนังสือของ Daniel-Rops (ราชบัณฑิต ชาวฝรั่งเศส. นักเขียนผู้มีผลงานจำนวนมาก และเป็น catholic author คนหนึ่งด้วย ในงานเขียนที่เราติดตามอ่านนั้นเกี่ยวกับไบเบิล ที่เขาเล่าและวิเคราะห์ได้อย่างตรึงใจและอ่อนโยนยิ่งนัก. ตอนนั้นติดตามอ่านเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา. ขอคารวะนักเขียนผู้นี้กำลังดื่มด่ำกับเรื่องของ Booz (หรือ Boaz) และ Ruth  ตัวเกร็งด้วยความรู้สึกเมื่อ Ruth คลานไปที่ปลายเท้าของ Booz ผู้นอนพักอยู่ และบอกเขาว่า “ étendez sur moi le pan de votre manteau”  ในความหมายว่า ท่านโปรดแผ่ชายเสื้อคลุมของท่านบนตัวข้า. (Ruth ขอเพียงชายเสื้อคลุม).  เป็นฉากบอกรักที่อ่อนโยนมาก.
        ตั้งแต่ยุคโบราณมาแล้ว เสื้อคลุมของคน ตัวยาวใหญ่กรอมเท้า เป็นเสื้อผ้าส่วนตัวและประจำตัวของคน เป็นตัวเดียวที่คนมีกันในยุคนั้น จนกว่าจะขาดวิ่นไป จึงหาตัวใหม่ ส่วนใหญ่เป็นผ้าขนสัตว์ กันลมกันฝนและให้ความอบอุ่น ยุคนั้นเสื้อคลุมตัวยาวแบบนั้น ติดตัวคนนั้นเกือบตลอดเวลากลางวันกลางคืนและในยามนอนด้วย เสื้อคลุมนั้นก็เป็นผ้าห่มส่วนตัวนั่นเอง เสื้อคลุมของใครเกือบเป็น ID card ของคนนั้น คือเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนคนนั้น.
      กำลังเคลิ้มๆกับฉากรักในคัมภีร์ที่ Daniel-Rops เล่าได้จับใจยิ่ง  หัวใจบีบตุ้มๆตั่มๆว่า Booz จะตอบอย่างไร ก็ให้ได้ยินเสียงหนึ่ง เสียงนุ่มๆเบาๆแผ่เป็นความถี่ในระดับต่ำมาปะทะโสตผัสสะ. เสียงนั้นเรียกseñorita [เซ-ญอ-ริตะ]เราเงยหน้าขึ้น สบตาคู่ดำขลับที่ฉายแสงเป็นรอยยิ้มนิดๆเขินหน่อยๆ บนใบหน้าขาวคมเข้มแบบอาหรับของนายตรวจที่มายืนอยู่ข้างที่นั่งเรา. เรางงอยู่ชั่ววินาที ประหนึ่งเห็นBoozมายืนอยู่ตรงหน้า  มือไม้สั่น หยิบตั๋วให้เขา เขาเช้คแล้วเดินไปข้างหน้า.  เรามองตาม คิดอยู่ในใจว่า คงมายืนดูเราอ่านหนังสืออยู่พักหนึ่งแล้ว แต่ความที่เรากำลังดื่มด่ำกับฉากรักในคัมภีร์  มิได้รับรู้อะไรรอบข้างเลย จนได้ยินเสียงของเขา.  เขาคงเบรคเสียงของเขาลงในระดับต่ำเพื่อมิให้เราตกใจ เพราะเสียงนุ่มๆเบาๆนั้น เข้ากับบรรยากาศในเรื่อง Booz กับ Ruth.  เราหยุดอ่าน ครุ่นคิดติดอยู่กับเสียงนั้น ไม่นานเห็นเขาเดินกลับมาทางที่เรานั่งอยู่  ได้เห็นคุณนายตรวจเต็มหน้าเต็มตา  เขาชะลอฝีเท้า  รีรอนิดนึง  เรายิ้มๆให้  เขาเลยหยุดพูดกับเราว่า  มีเหรียญจากประเทศไทยไหม เขาอยากได้?  เราขอโทษว่า ไม่มีติดตัวในตอนนั้น. เขาบอกว่าไม่เป็นไร-De nada [เด น๊าดะ]
แล้วเดินจากไปยังรถไฟตู้อื่น. เสียใจจริงๆที่ไม่มีเหรียญไทยติดตัว เขาคงสะสมเหรียญของชาติต่างๆ.  เอ๊ะ รู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นคนไทย.  ชาวยุโรปน้อยคนจะทายถูก. อ๋อคงเห็นในตั๋ว EUrail Pass ที่เจาะจงสัญชาติและชื่อเต็มของเรานั่นเอง.
      เราอ่านคำตอบของ Booz ในหนังสือ ความสนใจลดความเข้มลงไปมาก. คุณนายตรวจชาวสเปนสุดหล่อคนนั้น ได้เข้าสวมบทบาทของ Booz ในเรื่องอย่างพอดิบพอดี. Booz ทำตามที่ Ruth บอก เปิดชายเสื้อคลุมตัวนอก ไปห่มบนตัวของ Ruth. เท่ากับยอมรับ Ruth เป็นภรรยา. น่าสังเกตว่า Ruth บอกขอเพียง “ชายเสื้อคลุม” ทำให้คิดว่านางเป็นคนถ่อมตัว ไม่มักมากและอาจเพราะว่านางเป็นหม้าย จึงรู้ตัวว่าไม่คู่ควรกับ Booz คหบดีผู้มั่งคั่ง. ในคัมภีร์เล่าต่อว่า ทั้งสองมีบุตรชื่อ Obed (บิดาของ Jesse. เมื่อพูดถึง Jesse ก็ต้องนึกควบคู่ไปถึง Arbre de Jesse หรือต้นไม้ของแจสซี  ที่เป็นต้นแบบของการทำต้นไม้ประจำตระกูล. Obedเป็นปู่ของกษัตริย์ David ผู้มีชื่อเสียงและมักแสดงเจาะจงไว้ในคริสต์ศิลป์ว่าเป็นบรรพบุรุษของพระเยซู
       เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ตั้งแต่โลกยุคโบราณแล้ว กิริยาที่คนหนึ่งอ้าแขนออกกว้างรับอีกคนหนึ่งไว้ในวงแขนเขา คือการประกาศรับคนนั้นอยู่ในความคุ้มครอง อยู่ในความรับผิดชอบของเขา.  ภาพอินเดียนแดงภาพนี้ จึงสื่อความไว้วางใจของผู้หญิง การยอมตนของเธอ และผู้ชายก็ยืนยันด้วยกิริยาท่าทางว่า เขาปกป้องคุ้มครองเธอ และเธออยู่ในความรับผิดชอบของเขา.  การมอบผืนหนังสัตว์ห่อตัวให้ผู้หญิง ผืนหนังนั้นแทนเนื้อหนังมังสาของผู้ให้. กิริยาท่าทางเช่นนี้ไม่ใช่ a small gesture แต่บ่งบอกbond with HUGE responsibility. ใบหน้าทั้งสองนิ่งขรึม หลับตา. สรุปความรู้สึกส่วนตัวว่า The fusion is perfect and tender the painting.
  
      ส่วนที่อธิบายไว้ว่า เป็น a private moment… reveals his deep devotion and unending fidelity… intimate exchange นั้น มันเป็นการสรุปของจิตรกร ที่จินตนาการต่อไปในอนาคต หรือมองลึกลงไปในจิตสำนึก.  ภาพยังไปไม่ถึงจุดนั้น. devotion and fidelity ฟังสวย แต่ต้องพิสูจน์ผ่านกาลเวลา  และการพิสูจน์นั้น unending.  การนำคำนี้มาขยายนามธรรมสองตัวที่ลอยๆในอากาศ ไม่มีต้นไม่มีปลาย เช่นนี้จึงไม่ค่อยถูกใจนัก.  ประโยคฟังสวย น่าปลื้ม แต่ไม่ใช่ fact. ส่วนคำ private กับ intimate ขาดปัจจัยหนุน เพราะอินเดียแดงสองคนนี้ไม่น่าจะอยู่ตามลำพังแต่อยู่ในพิธีสมรส. แล้วexchange อะไร? ในนี้มีผู้ให้กับผู้รับ.  เราดูภาพจิตรกรรม ดูแสงสี ดูการประกอบภาพ ดูวิธีการลงสี แต่เมื่อจะเจาะจงเนื้อหา อาจต้องหาทุ่นให้เจอก่อนตีความ. การกำกับภาพของคนนี้ ในที่สุดเพื่อให้คนสนใจอยากซื้อ (ในเมื่อคนเขียนเป็นคนขาย).  ภาพนี้ในตัวเองก็งามพออยู่แล้ว ไม่กำกับอะไรเลย ยังจะดีกว่า การหว่านล้อมให้เชื่อ.
       เมื่อคุณนายตรวจเดินกลับมาอีก เราเลยหยุดเขาและยื่นแผ่นกระดาษโน้ตให้เขา. เราขอที่อยู่เขา (ฮั่นแน่ะ) ประมาณหนึ่งเดือนต่อมา เมื่อกลับไปถึงเกาหลี(ตอนนั้นสอนอยู่ที่เกาหลี) เราส่งเหรียญไทยไปให้เขา พร้อมแบ็งค์ไทยที่มี จัดอย่างดี ติดเหรียญแต่ละเหรียญเรียงไปอย่างเรียบร้อย ปิดทับด้วยสก็อตเทป ตรึงไว้บนกระดาษที่แข็งๆเพื่อมิให้เหรียญเคลื่อนที่ไปมาในซอง ห่อด้วยกระดาษอีกหลายชั้น แล้วนั่งแต่งจดหมายเป็นภาษาสเปนที่ผิดๆถูกๆ ให้คุณนายตรวจสุดหล่อชาวสเปน, เป็น Boozที่ได้พบบนรถไฟสาย Valencia - Ripoll. ส่งเป็นซองหนาลงทะเบียนไปให้ถึงบ้านตามที่อยู่ที่เขาให้มา.  นึกถึงใบหน้าและเสียงอันอ่อนโยนนั้น นับว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่สุดประทับใจ.
     กลับมายังเรื่องเสื้อคลุม  เลยแถมให้อีกภาพหนึ่ง ที่ตรึงความเข้าใจอย่างถาวร ถึงบทบาทของเสื้อคลุมตัวนอกของคนในยุคก่อนๆ(และในยุคปัจจุบัน)ในโลกตะวันตก และตะวันออกกลาง. ดูภาพของพระแม่มารี.

พระแม่มารีกับเสื้อคลุมขนพังพอน (ภาพ La Vierge au manteau d’hermine, ผลงานในระหว่างปี 1400-1410, ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Musée Crozatier, เมือง Puy en Velay, France)
เสื้อคลุมของพระแม่มารีในลักษณะนี้ ภาษาคริสต์ศิลป์เรียกเสื้อคลุมว่า Manteau de Miséricorde เน้นว่าเสื้อคลุมเป็นสัญลักษณ์ของความเมตตากรุณา  ในทำนองเดียวกันก็อธิบายลักษณะของพระแม่มารีแบบนี้ว่าเป็นพระแม่มารีแห่งความเมตตากรุณา หรือ la Vierge de Miséricorde. เสื้อคลุมยังใช้เป็นสัญลักษณ์ของความหวัง ของแสงสว่างเป็นต้น.  
ในภาพเราเห็นผู้คนจำนวนมาก วาดขนาดย่อส่วนอยู่ภายในกรอบรัศมีของเสื้อคลุมของพระแม่มารี มีกษัตริย์ ขุนนางหญิงชาย สันตปาปา บาดหลวง นักบวช คนหนุ่มคนแก่เป็นต้น. ส่วนอีกแปดคนที่มีรัศมีเรือนแก้วรอบศีรษะ คือนักบุญมีทั้งหญิงและชาย. ทั้งหมดถีงแก่อนิจกรรมแล้ว ไปอยู่กับพระแม่มารีในสวรรค์ ล้อมรอบพระนาง คอยเปล่งเสียงสรรเสริญพระนางและพระเจ้า.
ภาพพร้อมองค์ประกอบแบบนี้ เพื่อเจาะจงอธิบายตามอุดมการณ์ของศาสนาว่า พระแม่มารีผู้เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา คอยปกป้องชาวคริสต์ทุกคน และยามคับขันเมื่อพระเจ้าโกรธลงโทษคนบาปรุนแรง ก็ช่วยขอให้พระเจ้าลดหย่อนผ่อนโทษให้ หรือช่วยขอพรจากพระเจ้าให้คนที่มาสวดวิงวอนขอพึ่งพระนางเป็นต้น. 

       เล่ากันในตำนานเสมอว่า บ่อยๆที่พระแม่มารีบอกพระคริสต์ว่า นี่แม่ขอนะ ช่วยเขาเถอะ. พระคริสต์หรือจะปฏิเสธแม่ได้. ชาวคริสต์จึงเชื่อในพระแม่มาก และขออะไรจากพระแม่ มักจะสำเร็จ. ขนบการกราบไหว้พระแม่มารีจึงเกิดขึ้น เข้าแทนที่นางในดวงใจของขนบอัศวินสมัยก่อนได้อย่างพอดี. มีการสร้างวัดอุทิศให้ Notre Dame ทั่วไปทั้งยุโรป ซึ่งหมายถึงพระแม่มารีนั่นเอง เป็นขนบที่เรียกว่า มารีโอโลจี-Mariology ที่ยังคงสืบต่อมาในลัทธิคาทอลิกจนถึงปัจจุบัน.
      ครั้งหนึ่ง ผ่านเข้าไปในโบสถ์หนึ่งในอิตาลี เช้าๆคนยังน้อย เดินดูศิลปวัตถุ ผ่านไปยังหน้าแท่นบูชาพระแม่มารี ชายหนุ่มคนหนึ่งลุกขึ้นจากท่าคุกเข่า เขาเพิ่งสวดเสร็จ เขาทำมือส่งจูบจากปากยกขึ้นสู่รูปปั้นพระแม่มารี. ใบหน้านั้นอมทุกข์ เขาคงไปขอให้พระแม่มารีช่วย. ท่าทางและใบหน้านั้น บ่งบอกความศรัทธาและความหวังของเขา. เห็นแล้วก็อดสะเทือนใจไม่ได้ ดังสำนวนในคัมภีร์ว่า la chair est faible(อาจแปลด้วยนัยว่า weak is the flesh นั่นคือเนื้อหนังหัวจิตหัวใจคนนั้นอ่อนแอ ตกอยู่ในความทุกข์ความลุ่มหลงเสมอ). แล้วก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ ที่เผอิญได้ไปสัมผัสความรู้สึกส่วนตัวของเขาในขณะนั้น.

       นาทีนี้ก็นึกต่อไปถึงหนังสนุกเรื่อง Love at first bite (รักแรกกัด) มี Dragula หล่ออย่าง George Hamilton. โอ๊ะโอ!  อย่าได้หลงเข้าไปอยู่ในเสื้อคลุมของเขาเชียว!  เรื่องนี้เสนอภาพของ Dragula เจ้าสำอาง คล่องแคล่ว ปราดเปรียว เต้นรำเก่ง เอาใจผู้หญิงเก่ง รวมทั้งกัดและดูดเลือดได้อย่างเสียวซ่าน ไอ้หยา!
หาซื้อเสื้อคลุมสำหรับตัวเองดีกว่านะ...


ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย วรรคนี้โผล่ขึ้นมาในสมอง สั่งมือให้คีย์ลงบนแป้นว่า
กางกรอุ้มโอบแก้ว กากี   

จากบันทึกความทรงจำของโชติรส เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘.

1 comment:

  1. นักบุญมาร์ตินเมืองตูรฺ(ฝรั่งเศส) (saint Martin de Tours, France เกิดในราวปีคศ.316) เป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวคาทอลิกว่า ได้ดัดแบ่งเสื้อคลุมของท่านออก เพื่อห่มคนขอทาน. ในคริสต์ศิลป์แสดงภาพของนักบุญกำลังใช้ดาบตัดเสื้อคลุมของท่านเสมอ กลายเป็นอัตลักษณ์ของนักบุญคนนี้.
    วันฉลองนักบุญคือวันที่ 11 Nov ทุกปี. วิหารแซ็งมารฺแต็งเป็นศูนย์จาริกแสวงบุญแห่งหนึ่งของคริสต์จักร.
    >>> กิริยาห่มผ้าให้ใคร เพื่อปกป้องคนนั้น ปลอบใจ นำความอบอุ่นให้คนนั้น เป็นกิริยาที่ทำกันมาตั้งแต่โลกโบราณจนถึงปัจจุบัน เมื่อตำรวจในหน่วยกู้ภัยเข้าช่วยใครจากภัยพิบัติ ก็ห่มตัวให้คนที่ไปช่วยออกมาเสมอ.

    ในหนังเรื่อง Love at first bite (รักแรกกัด) เรียกเสื้อคลุมตัวยาวของ Count Dragula ว่า the cape. cape ดูเหมือนจะสั้นกว่า แต่ก็มี the cape of Superman ที่ยาวแต่ไม่ถึงกับยาวกรอมเท้า. เช้คดูจากเน็ต พบว่าคำ cloak ถูกต้องแล้ว และยังมีวิธีสอนให้ทำด้วยนะ น่าสนใจ. Thank you, Net! ดูหนัง "รักแรกกัด" อีกที ชอบ the British touch ตอนจบ ที่ให้จิตแพทย์และสารวัต ต่างต้องการเก็บเสื้อคลุมตัวสวยของ Count Dragula ไว้ ต่างบอกว่าพอคลุมเข้าไปแล้ว มันทำให้ดูน่าทึ่ง มีสง่าราศี ตรึงตาตรึงใจคนอื่น หะฮา!

    ReplyDelete